
การนำเข้าสินค้าจากจีนทางทะเลเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมากหรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่าการขนส่งทางอากาศ อย่างไรก็ตาม หนึ่งในต้นทุนสำคัญที่ผู้นำเข้าต้องคำนึงถึงคือ “ค่าระวางเรือ” (Freight Rate) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางเรือจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ค่าระวางเรือ ปัจจัยที่มีผลต่อค่าระวาง วิธีการคำนวณ และเคล็ดลับในการลดต้นทุนการขนส่งทางทะเล
ค่าระวางเรือคืออะไร?
ค่าระวางเรือ (Freight Rate) คือค่าขนส่งสินค้าทางเรือที่ผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าต้องจ่ายให้กับสายการเดินเรือ (Shipping Line) หรือผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ค่าระวางเรืออาจรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมท่าเรือ ค่าประกันสินค้า และค่าภาษีศุลกากร
ค่าระวางเรือมีผลต่อราคาสินค้าปลายทางโดยตรง หากค่าขนส่งสูง ราคาสินค้าก็จะสูงขึ้น ทำให้กำไรลดลง ดังนั้น ผู้นำเข้าจึงต้องศึกษาและเลือกวิธีขนส่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ต้นทุนที่คุ้มค่าที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าระวางเรือ
ค่าระวางเรือไม่ได้คงที่ แต่เปลี่ยนแปลงตามปัจจัยหลายประการ ได้แก่
1.ระยะทางและเส้นทางขนส่ง
- ยิ่งระยะทางไกล ค่าระวางก็ยิ่งสูง
- เส้นทางที่มีปริมาณสินค้าขนส่งสูง ค่าระวางมักจะถูกกว่าทางที่มีความต้องการต่ำ
-
ปริมาณสินค้าและประเภทของสินค้า
- การขนส่งสินค้าแบบ Full Container Load (FCL) มักมีค่าระวางถูกกว่าการขนส่งแบบ Less than Container Load (LCL)
- สินค้าบางประเภท เช่น วัตถุอันตราย สินค้าแช่เย็น หรือสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ อาจมีค่าระวางสูงกว่าสินค้าทั่วไป
-
ช่วงเวลาและฤดูกาล
- ค่าระวางเรือมักสูงขึ้นในช่วง Peak Season เช่น ช่วงปลายปีที่มีการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก
- ในช่วงที่มีปัญหาทางโลจิสติกส์ เช่น การล็อกดาวน์หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าระวางอาจพุ่งสูงขึ้น
-
สถานการณ์ตลาดและต้นทุนเชื้อเพลิง
- ราคาน้ำมันและค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (Bunker Adjustment Factor – BAF) มีผลต่อค่าระวางเรือ
- ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์หรือการจราจรติดขัดในท่าเรืออาจทำให้ค่าระวางสูงขึ้น
-
สายการเดินเรือและผู้ให้บริการโลจิสติกส์
- แต่ละสายการเดินเรือมีค่าระวางแตกต่างกัน
- ตัวแทนขนส่งสินค้าหรือ Freight Forwarder อาจมีส่วนลดพิเศษจากสายการเดินเรือ ทำให้ค่าระวางถูกลง
ประเภทของค่าระวางเรือ
ค่าระวางเรือแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของการขนส่ง ได้แก่
-
ค่าระวางแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ (FCL – Full Container Load)
เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมาก โดยผู้ส่งออกจะเช่าตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต หรือ 40 ฟุต เพื่อใช้บรรทุกสินค้าเพียงรายเดียว
ข้อดี:
✅ ค่าระวางต่อหน่วยสินค้าถูกกว่าการขนส่งแบบ LCL
✅ ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนหรือเสียหายจากสินค้าอื่น
-
ค่าระวางแบบแบ่งตู้ (LCL – Less than Container Load)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีสินค้าปริมาณน้อย โดยต้องแชร์พื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์กับผู้นำเข้ารายอื่น
ข้อดี:
✅ ไม่ต้องเช่าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งตู้ ช่วยลดต้นทุน
✅ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการนำเข้าจำนวนน้อย
ข้อเสีย:
❌ ค่าขนส่งต่อหน่วยสูงกว่าการใช้ตู้แบบ FCL
❌ อาจเกิดความล่าช้าเพราะต้องรอให้ตู้เต็มก่อนออกเดินทาง
-
ค่าระวางแบบ Bulk Shipping (ขนส่งสินค้าจำนวนมาก)
เหมาะสำหรับสินค้าประเภทวัตถุดิบ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และเมล็ดพืช ที่ต้องใช้เรือบรรทุกขนาดใหญ่
-
ค่าระวางแบบ Ro-Ro (Roll-on/Roll-off)
ใช้สำหรับขนส่งยานพาหนะ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก และเครื่องจักรกลหนัก
วิธีการคำนวณค่าระวางเรือ
ค่าระวางเรือคำนวณจาก น้ำหนักหรือปริมาตรสินค้า โดยทั่วไปมี 2 วิธีหลัก ได้แก่
- คิดตามน้ำหนัก (Weight-based Freight Rate): เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักมากแต่ใช้พื้นที่น้อย เช่น โลหะ
- คิดตามปริมาตร (Volume-based Freight Rate): เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักเบาแต่กินพื้นที่มาก เช่น เฟอร์นิเจอร์
สูตรคำนวณค่าระวางเรือแบบ LCL:
ค่าระวาง=อัตราค่าขนส่งต่อลูกบาศก์เมตร(CBM)×ปริมาตรสินค้า(CBM)ค่าระวาง = อัตราค่าขนส่งต่อลูกบาศก์เมตร (CBM) × ปริมาตรสินค้า (CBM)ค่าระวาง=อัตราค่าขนส่งต่อลูกบาศก์เมตร(CBM)×ปริมาตรสินค้า(CBM)
ค่าระวางเรือสำคัญอย่างไรต่อการนำเข้าสินค้าจากจีน
ค่าระวางเรือเป็นต้นทุนหลักในการขนส่งสินค้าทางทะเล ซึ่งเป็นวิธีขนส่งที่นิยมใช้มากที่สุดในการนำเข้าสินค้าจากจีน เนื่องจากมีราคาถูกกว่าการขนส่งทางอากาศและเหมาะสำหรับการนำเข้าสินค้าปริมาณมาก
ค่าระวางเรือกับการบริหารต้นทุนธุรกิจนำเข้า
ค่าระวางเรือเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักของธุรกิจนำเข้า การบริหารต้นทุนค่าระวางอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจสามารถตั้งราคาขายได้อย่างเหมาะสมและแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
ตัวอย่างผลกระทบของค่าระวางเรือต่อธุรกิจ
📌 หากค่าระวางสูง ธุรกิจอาจต้องขึ้นราคาสินค้า ส่งผลให้ยอดขายลดลง
📌 หากบริหารต้นทุนค่าระวางได้ดี ธุรกิจสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและแข่งขันในตลาดได้
สรุป
ค่าระวางเรือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากจีนทางทะเล ราคาค่าระวางขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะทาง ขนาดตู้คอนเทนเนอร์ สถานการณ์ตลาด และประเภทของสินค้า ผู้นำเข้าควรศึกษารายละเอียดของค่าระวางและเลือกวิธีขนส่งที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำไรในการดำเนินธุรกิจ