facebook ads library คืออะไร?

facebook ads Library คืออะไร?

Facebook ads library

เป็นเครื่องมือที่จะช่วยในเรื่องของการทำการตลาด วิธีการทำงานคือจะรวมฐานข้อมูลทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่บน Facebook มาเปรียบเทียบเพื่อหาแนวทางในการสร้างโฆษณาใหม่ โดยฟีเจอร์นี้ได้พัฒนาออกมาเพื่อสร้างความโปร่งใสในการใช้งาน

สารบัญ

-ทำความรู้จักกับ FACEBOOK AD LIBRARY

-ข้อดีของการใช้ FACEBOOK ADS LIBRARY

-วิธีการใช้งาน AD LIBRARY

-5 จุดที่ต้องสนใจเมื่อใช้ AD LIBRARY ในการส่องคู่แข่ง

-สรุป

ทำความรู้จักกับ Facebook ad library

การส่องคู่แข่งด้วย facebook ads Library

สำหรับเครื่องมือนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งในขณะนั้นผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเข้ามาดูข้อมูลงานโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องการเมืองและนโยบายที่สำคัญเท่านั้น แต่ต่อมาฟีเจอร์นี้ได้พัฒนาขอบเขตของฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้น และครอบคลุมงานของด้านการตลาดทำให้สามารถค้นหาและดูข้อมูลโฆษณาต่างๆบน Facebook ads library ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะตั้งค่าว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาเหล่านั้นหรือไม่ก็สามารถค้นหาได้ทุกโฆษณาที่ต้องการ

  •  Available to everyoneป็นฟังก์ชั่นที่หากมีลิงก์นั้นไม่ว่าเป็นใครก็สามารถค้นหาดูโฆษณาบน Facebook ads library ของแต่ละเพจได้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เป็น influencer ก็สามารถเข้าถึงโฆษณาค่ะสิ้นท่าแต่ทั้งนี้ก็จะมีการจำกัดเนื้อหาบางประเภทอย่างเช่นโฆษณาการพนันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ถูกแสดงหากผู้ใช้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
  •  Completely searchable เพื่อทำการค้นหาข้อมูลด้วยการใส่ชื่อ page ลงไปในช่องค้นหา ไม่ว่าจะเป็นชื่อบุคคล ชื่อองค์กรหรือชื่อผลิตภัณฑ์ จะทำให้เจอกับ Pages ที่มีสินค้าชนิดเดียวกับธุรกิจของคุณ ซึ่งนักการตลาดที่เป็นสายเดียวกันก็สามารถใช้วิธีนี้นะเช่นกัน

ข้อดีของการใช้ facebook ads library

ข้อดีของ facebook ads Library

นอกจากช่วยให้หาไอเดียใหม่ใหม่ของคู่แข่งแล้ว การใช้เครื่องมือตัวนี้แล้ว ก็ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้ดังต่อไปนี้

  1. ติดตามและหาแรงบันดาลใจด้วย Facebook ads library

ในหลายหลายครั้งที่สมองเริ่มตันการเข้าไปดูเพจสินค้าที่ให้บริการคล้ายกับธุรกิจของคุณนั้นก็เป็นการหาแรงบันดาลใจได้อีกทางหนึ่ง เครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้คุณศึกษารูปแบบการทำโฆษณาของคู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้กับโฆษณาของตัวเองแต่ทั้งนี้จะสามารถอยู่ได้แค่ตัวอย่างงานเท่านั้นจะไม่สามารถเห็นยอด engagement ในโพสต์เหล่านั้นได้ และแน่นอนว่าเมื่อกินเข้าไปดูข้อมูลของคู่แข่งได้พวกเขาก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลได้เช่นกันรวมถึงลูกค้าก็สามารถเข้ามาใช้งานเครื่องมือนี้ได้เหมือนกันด้วย

  2.Facebook ads library สามารถค้นหาโฆษณาที่เคยเห็นผ่านตาแต่จำไม่ได้

ไปแหละในครั้งที่เลื่อนปิดใน Facebook อาจจะไปเจอโฆษณาที่สนใจหรือโปรโมชั่นปัญญาที่น่าจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ แต่ไม่ได้เซฟหรือทำสำเนาโฆษณานั้นไว้ฉะนั้นฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ค้นหาโฆษณาได้อย่างง่ายดาย

  3. Facebook ads library เลือกช่วงเวลาในการติดตามโฆษณาได้

เครื่องมือนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปส่องดูโฆษณาของคู่แข่งในทุกวัน สามารถเข้ามาดูได้ในสองช่วงเวลาก็คือ ช่วงต้นเดือนและช่วงเทศกาลพิเศษ จะมีการทำโฆษณาใหม่ๆ จากธุรกิจอื่นๆ ฉะนั้นเครื่องมือนี้สามารถตั้งค่าการติดตามล่วงหน้าได้โดยที่ไม่ต้องเข้ามาส่องบ่อยๆ

วิธีการใช้งาน Ad Library

วิธีการเข้าไปใช้งานมันจะมีทั้งหมด 2 วิธี คือ

1. คุณสามารถเข้าไปที่หน้าของ Ad library ได้โดยตรงเลยที่ลิงก์ : https://www.facebook.com/ads/library และค้นหาในช่อง Search

วิธีการใช้งาน Ad Library

2. อีกหนึ่งวิธีก็ คือการเข้าไปในเพจนั้นๆ และเลือกที่ “Page Transparency” ที่อยู่ด้านขวาของเพจ และคลิ๊ก ‘See more’ จากนั้นก็เลื่อนลงมาในเซคชั่น “Ads From This Page” และคลิ๊กที่ ‘Go to Ad Library’ เท่านี้คุณก็สามารถดูเนื้อหาโฆษณาของเพจดังกล่าวได้แล้ว

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น คุณสามารถดูวิธีการใช้งานได้จากวิดีโอด้านล่างนี้เลยคะ

เฟสบุ๊ค
ไลน์
ยูทูป

5 จุดที่ต้องสนใจเมื่อใช้ Ad Library ในการส่องคู่แข่ง

1. รูปแบบการเขียน Copy Writing

เทคนิคในการสังเกตุการเขียน Copy Wirting ของคู่แข่งก็คือ :

– พวกเขามีสไตล์การเขียนอย่างไร ?

– พวกเขาใช้โทนเสียง (Tone of voice) แบบไหนในการสื่อสารกับลูกค้า ?

– พวกเขาเลือกใช้การเขียนแบบ Long – form หรือ Short – form ?

– พวกเขาใช้เทคนิคอื่นๆ เพื่อให้คอนเทนต์ดูเข้าถึงง่ายไหม (เช่น การใส่ Emoji เป็นต้น)

สิ่งเหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าวิเคราะห์ออกมาแล้ว คุณจะได้รู้อะไรหลายๆ อย่างจากมัน เช่น พวกเขามีกลุ่มลูกค้าแบบไหน (จากการใช้ภาษาหรือคำ) หรือก็จะสามารถบอกได้ว่าด้วยการสื่อสารแบบนี้ มันเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นได้ดีแค่ไหนนั่นเอง

ตัวอย่างเช่น Hubspot ซอฟต์แวร์ที่ให้บริการทางด้าน Inbound Marketing and Sales โดยเราจะสามารถสังเกตุได้จาก Ads ของพวกเขาว่า พวกเขามีการใช้รูปแบบของ Ad , CTA (Call to action) และรูปภาพที่เหมือนกัน แต่ใช้รูปแบบการเขียน Copy writing ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่ารูปแบบการเขียนแบบไหนที่เวิร์คที่สุด

facebook ans Library

2. Title ของลิงก์เว็บไซต์

Title ของลิงก์เว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ดี ซึ่งเพียงแค่เปลี่ยนคอนเทนต์ของ Title นั้น กลุ่มเป้าหมายก็อาจจะเปลี่ยนได้เช่นกัน หลากหลายเพจจึงมักจะลองด้วยประโยคที่หลากหลาย

ตัวอย่างจาก Hubspot (อีกเช่นเคย) นอกจาก Copy Writing แล้ว พวกเขาได้ทำการทดสอบกับคอนเทนต์ Title ของลิงก์เว็บไซต์เช่นเดียวกัน โดยจะสังเกตุได้ว่าพวกเขานั้นใช้รูปภาพ และรูปแบบโฆษณาที่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ Title ของลิงก์นั่นเอง

การใช้งาน Ads Library

3. ความสร้างสรรค์ของดีไซน์

รูปหรือวิดีโอมักเป็นสิ่งแรกๆ ที่สามารถหยุดสายตาของคนที่กำลังเลื่อนหน้าจออยู่ได้ ซึ่งถ้ารูปภาพหรือวิดีโอเหล่านั้นมีดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมกับคอนเซปต์ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจแล้ว มันก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะอยากทำความรู้จักกับสินค้าหรือข้อเสนอของคุณมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น Canva เว็บไซต์สำหรับการออกแบบดีไซน์ Artwork ต่างๆ ที่พวกเขาเลือกใช้วิดีโอใน Ad ของพวกเขา ซึ่งมีทั้งวิดีโอที่มีสีสันสะดุดตา และวิดีโอแบบเรียบง่ายแต่เข้าถึงได้ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันนั่นเอง

เว็บต่างๆ

4. Format ของโฆษณา

ปัจจุบันโฆษณาบน Facebook นั้นมีหลากหลายประเภท เช่น

– Image Ads : โฆษณาที่เป็นรูปภาพ

– Video Ads : โฆษณาที่ใช้วิดีโอ

– SlideShow Ads : โฆษณาแบบรูปภาพที่เลื่อนไปเรื่อยๆ

– Carousel Ads : โฆษณาแบบเป็นเซ็ตรูปภาพหรือวิดีโอ

ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกัน โดยคุณสามารถใช้มันส่องได้ว่าโฆษณารูปแบบไหนจะเหมาะกับสินค้าหรือข้อเสนอของเรา เช่น ถ้าสินค้าของคุณมีหลากหลายประเภท คุณอาจจะได้ค้นพบว่า การใช้โฆษณารูปแบบ Carousel Ads นั้นได้ผลดีกว่าการเลือกโฆษณาแบบ Image Ads ที่เป็นรูปภาพเดี่ยวๆ

ตัวอย่างจาก Target ซึ่งเป็น Re-tailer เจ้าดังของสหรัฐ โดยเพจของพวกเขาเองก็ได้ใช้รูปแบบของโฆษณาที่แตกต่างกัน

Ads Library ส่วนขยาย

5. ปุ่ม Call – to – Action

อย่างที่รู้กันว่า Facebook Ads นั้นสามารถใส่ปุ่ม CTA ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • Send Message
  • Apply now
  • Book Now
  • Contact Us
  • Download
  • Get Offer
  • Get showtime
  • Learn More

แต่ละปุ่มก็จะถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้คุณก็สามารถดูได้ว่าคู่แข่งของคุณใช้ CTA แบบไหนในแคมเปญโฆษณานั้นๆ ตัวอย่างเช่น Nike ที่ใน 1 แคมเปญ พวกเขาก็ได้ใช้ CTA ที่หลากหลายสรุป

วิธีดูโฆษณา facebook ads library

สรุป

หวังว่าคุณเองจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์ Ad Library มากขึ้นและสามารถนำมันไปใช้ส่องคู่แข่งหรือแบรนด์โปรดของคุณได้จากการอ่านบทความนี้

แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรใช้เครื่องมือนี้เพื่อจุดประสงค์ในการลอกเลียนแบบ แต่ควรใช้มันเพื่อค้นหาไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาโฆษณา Paid Campaign บนเพจ Facebook ของคุณคะ เพราะเมื่อคุณรู้วิธีที่จะทำการตลาดให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักและน่าสนใจสำหรับลูกค้าแล้ว ก็จะสามารถขายสินค้าของคุณได้ในจำนวนมีมากขึ้นเรื่อยๆ และการขายสินค้าได้เยอะก็จะทำให้คุณสต๊อกสินค้าในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นและยังช่วยลดต้นทุนของสินค้าของคุณลงด้วย เพราะเมื่อสั่งสต๊อกสินค้าเป็นจำนวนที่เยอะขึ้นก็จะสามารถต่อรองราคากับผู้ผลิตได้นั้นเอง

หากคุณสนใจนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อช่วยลดต้นทุนของสินค้าทาง Jawandacargo ยินดีให้บริการคะ เราเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าจากจีนแบบครบวงจรไม่ว่าคุณกำลังมองหาสินค้าแบบไหน อะไหล่สินค้าหรือสินค้าที่เป็นกระแสนิยมทางเราก็สามารถหาให้ได้ พร้อมบริการต่อรองราคากับทางโรงงานในจีน และหากคุณสั่งนำเข้าเป็นจำนวนเยอะทางเราก็มีส่วนลดสำหรับค่านำเข้าให้ด้วย สินค้าติดต่อสอบถามและปรึกษาได้ฟรี>>>

บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน

บริการสั่งของจากจีน ด้วยทีมงานคุณภาพ คลอบคลุมทุกธุรกิจ ผู้นำด้านการสั่งของจากจีน พร้อมนำเข้าสินค้าจากจีน จากชิปปิ้งที่มีเครือข่ายทีมงาน มากที่สุดในโลก อันดับ 1

สอบถามบริการนี้