สาเหตุที่ลูกค้าย้ายShippingเกิดจากอะไร?
สาเหตุที่ลูกค้าอาจตัดสินใจย้ายShipping ไปใช้บริการขนส่งเจ้าอื่นมีหลายประการ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการให้บริการ ต้นทุน หรือคุณภาพของบริการ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกค้าย้ายShipping:
-
บริการล่าช้า
- การจัดส่งไม่ตรงเวลา: หากผู้ให้บริการขนส่งมีการส่งสินค้าล่าช้าบ่อยครั้ง หรือไม่สามารถปฏิบัติตามกำหนดเวลาในการส่งมอบสินค้าได้ ลูกค้าอาจสูญเสียความไว้วางใจและย้ายไปใช้บริการของบริษัทอื่นที่สามารถส่งมอบสินค้าตามเวลาที่กำหนด
- การติดตามสถานะการขนส่งไม่ชัดเจน: หากลูกค้าไม่สามารถติดตามสถานะของสินค้าหรือไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดส่ง ลูกค้าอาจรู้สึกไม่พึงพอใจ
-
ค่าขนส่งสูง
- ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น: หากผู้ให้บริการขนส่งมีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งโดยไม่ชี้แจงสาเหตุอย่างชัดเจน หรือมีค่าธรรมเนียมแฝงที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ลูกค้าอาจเลือกย้ายไปใช้บริการของบริษัทอื่นที่เสนอราคาที่สมเหตุสมผลกว่า
- ขาดความคุ้มค่า: ลูกค้าอาจมองหาผู้ให้บริการที่เสนอราคาที่ถูกกว่าแต่ยังคงมีคุณภาพดี โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
-
การบริการลูกค้าไม่ดี
- การสื่อสารไม่ดี: หากผู้ให้บริการขนส่งมีการสื่อสารที่ไม่ดีหรือไม่ชัดเจน เช่น การตอบคำถามล่าช้า ไม่แก้ไขปัญหาให้รวดเร็ว หรือไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการจัดส่ง ลูกค้าอาจรู้สึกไม่พอใจและย้ายไปใช้บริการที่มีการสนับสนุนลูกค้าที่ดีกว่า
- การบริการหลังการขายไม่ดี: หากลูกค้าไม่สามารถขอคืนเงินหรือรับการชดเชยได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่สินค้าสูญหายหรือเสียหาย อาจทำให้ลูกค้าย้ายไปใช้บริการจากบริษัทที่มีนโยบายหลังการขายที่ดีกว่า
-
สินค้าเสียหายหรือสูญหาย
- สินค้าสูญหายบ่อยครั้ง: หากผู้ให้บริการขนส่งไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของสินค้าได้ หรือมีการสูญหายของสินค้าบ่อยครั้ง ลูกค้าจะรู้สึกไม่มั่นใจในความน่าเชื่อถือของบริษัท
- สินค้าชำรุดระหว่างการขนส่ง: หากสินค้าที่จัดส่งถึงลูกค้าได้รับความเสียหายจากการบรรจุหรือการขนส่งที่ไม่ระมัดระวัง ลูกค้าอาจเลือกย้ายไปใช้บริการจากผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานสูงกว่า
-
ความยืดหยุ่นและความสามารถในการจัดส่ง
- ขาดความยืดหยุ่นในบริการ: หากลูกค้าต้องการบริการเสริมเพิ่มเติม เช่น การจัดส่งด่วน, หรือการจัดส่งในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง แต่ผู้ให้บริการขนส่งเดิมไม่สามารถให้บริการได้ ลูกค้าอาจเปลี่ยนไปหาบริษัทที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
- ข้อจำกัดด้านพื้นที่การจัดส่ง: หากผู้ให้บริการขนส่งไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่ลูกค้าต้องการจัดส่งสินค้า หรือมีข้อจำกัดในการจัดส่งสินค้าข้ามประเทศ ลูกค้าอาจเลือกย้ายไปใช้บริการจากบริษัทที่มีเครือข่ายการขนส่งกว้างขวางกว่า
-
ปัญหาด้านเอกสารและภาษี
- การจัดการเอกสารศุลกากรไม่ดี: หากผู้ให้บริการขนส่งมีปัญหาในการจัดการเอกสารศุลกากร หรือทำให้ลูกค้าต้องจ่ายภาษีหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมโดยไม่คาดคิด ลูกค้าอาจเปลี่ยนไปหาผู้ให้บริการที่จัดการเรื่องเอกสารและภาษีได้ดีกว่า
- ความยุ่งยากในการดำเนินการ: หากขั้นตอนการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าซับซ้อน และผู้ให้บริการขนส่งไม่ได้ช่วยให้กระบวนการง่ายขึ้น ลูกค้าอาจเลือกย้ายไปใช้บริการจากผู้ที่ทำให้กระบวนการสะดวกและง่ายดายกว่า
-
การแข่งขันและข้อเสนอจากคู่แข่ง
- ข้อเสนอที่ดีกว่า: หากคู่แข่งเสนอค่าขนส่งที่ถูกกว่า หรือมีบริการเสริมเพิ่มเติม เช่น การประกันสินค้า การติดตามสถานะสินค้าอย่างละเอียด ลูกค้าอาจตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้บริการของคู่แข่ง
- โปรโมชันและส่วนลด: คู่แข่งอาจเสนอโปรโมชันหรือส่วนลดที่ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ทำให้ลูกค้าย้ายผู้ให้บริการเพื่อประโยชน์ในด้านต้นทุน
บริการนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่เริ่มต้น
การให้บริการขนส่ง (Shipping) ที่ดีควรมีคุณสมบัติหลายประการเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและมั่นใจในการใช้บริการ นี่คือคุณสมบัติหลักที่ผู้ให้บริการขนส่งที่ดีควรมี:
-
ความตรงเวลา
- การจัดส่งตรงเวลา: ผู้ให้บริการขนส่งควรสามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในเวลาที่กำหนดหรือตามที่สัญญาไว้ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้าจะถึงที่หมายตามที่คาดการณ์
- การแจ้งเตือนล่วงหน้า: ควรแจ้งลูกค้าเมื่อมีปัญหาหรือความล่าช้าในการจัดส่ง เพื่อให้ลูกค้าเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา
-
การติดตามสถานะการขนส่ง (Tracking)
- ระบบติดตามที่มีประสิทธิภาพ: ลูกค้าควรสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์ผ่านทางระบบออนไลน์ เพื่อให้ทราบว่าสินค้าอยู่ที่ไหนและจะถึงเมื่อไร
- การอัปเดตสถานะอย่างสม่ำเสมอ: ควรมีการอัปเดตสถานะการขนส่งอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลหรือสงสัยเกี่ยวกับสถานะของสินค้าของพวกเขา
-
ความปลอดภัยของสินค้า
- การดูแลสินค้าอย่างระมัดระวัง: ผู้ให้บริการขนส่งควรมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของสินค้าเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง เช่น การบรรจุสินค้าที่แข็งแรงและการขนย้ายที่ระมัดระวัง
- การประกันสินค้า: การมีนโยบายการประกันสินค้าหากเกิดความเสียหายหรือการสูญหาย จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น
-
ค่าขนส่งที่เหมาะสม
- ราคาค่าขนส่งที่สมเหตุสมผล: ผู้ให้บริการควรเสนอราคาค่าขนส่งที่สอดคล้องกับคุณภาพการบริการ ไม่สูงหรือต่ำเกินไป แต่ควรแข่งขันได้ในตลาด
- ความโปร่งใสในค่าธรรมเนียม: ควรชี้แจงค่าบริการทั้งหมดให้ชัดเจน ไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง
-
การบริการลูกค้าที่ดี
- การสื่อสารที่ดี: ควรมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องและตอบข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
- การให้บริการช่วยเหลือ : ควรมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่ามีคนดูแล
-
ความยืดหยุ่นในการให้บริการ
- บริการจัดส่งหลากหลายประเภท: ผู้ให้บริการขนส่งที่ดีควรมีตัวเลือกการจัดส่งที่หลากหลาย เช่น การจัดส่งด่วน หรือการขนส่งแบบประหยัด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
- การปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า: ควรมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่ง หรือวิธีการจัดส่งตามสถานการณ์ เช่น การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ปลายทาง หรือการเลือกเส้นทางที่เร็วขึ้นเมื่อจำเป็น
-
เครือข่ายการขนส่งกว้างขวาง
- การเข้าถึงปลายทางทั่วโลก: ผู้ให้บริการขนส่งควรมีเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าได้ในทุกที่ที่ต้องการ
- ความเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการขนส่งอื่น: การมีพันธมิตรกับผู้ให้บริการขนส่งหลายรายจะช่วยให้การจัดส่งครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นและมีตัวเลือกในการขนส่งมากขึ้น
-
มาตรฐานในการจัดการเอกสารและภาษี
- การจัดการเอกสารศุลกากร: ผู้ให้บริการขนส่งควรมีความชำนาญในการจัดการเอกสารศุลกากร เพื่อให้สินค้าผ่านด่านศุลกากรได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
- การให้คำแนะนำเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียม: ควรสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าและส่งออกสินค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าคำนวณค่าใช้จ่ายได้ถูกต้อง
-
นโยบายการจัดการปัญหา
- การชดเชยความเสียหาย: ผู้ให้บริการควรมีนโยบายการชดเชยสินค้าหรือการคืนเงินในกรณีที่สินค้าได้รับความเสียหาย สูญหาย หรือไม่ได้รับตามที่สัญญา
- การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว: ควรมีการจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและทันทีเมื่อเกิดปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า
Jawanda Cargo
ปัจจุบันการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ บริษัทของเรามีบริการหลากหลายด้านที่สามารถเอื้ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าดังนี้ :
Jawanda Cargo เรามีบริการให้คำปรึกษากับลูกค้าที่สนใจนำเข้าสินค้าจากจีนหรือหากลูกค้าอยากผลิตสินค้าจากโรงงานจีนทางเรามีบริการดีลกับโรงงานจีนให้กับลูกค้าอีกด้วยเพื่อจะได้สินค้าที่ตรงใจกับลูกค้าและต้นทุนที่ถูกลง
บริการนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่เริ่มต้น
นอกจากจะมีบริการสั่งสินค้าจากจีนผ่านแอพต่างๆให้แล้ว ทางเรายังมีบริการฝากจ่ายสินค้าให้กับลูกค้าอีกด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ท่าน
หากสั่งสินค้าเสร็จแล้ว Jawanda Cargo ยังมีบริการเช็คสถานะการส่งสินค้าให้อีกด้วย ลูกค้าสามารถเช็คสถานะเองได้แบบเรียลถามได้เอง 24 ชม. ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น สามารถตรวจสอบได้ทุกเวลา คลายทุกข้อสงสัย สบายใจหายห่วง
สรุป
ลูกค้าที่ย้ายผู้ให้บริการขนส่งเนื่องจากปัญหาด้านการบริการ ความล่าช้า คุณภาพการขนส่ง ความปลอดภัยของสินค้า การบริการลูกค้าไม่ดี ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น รวมถึงข้อเสนอจากคู่แข่งที่ดีกว่า หากลูกค้าเจอบริการShippingของเจ้าอื่นไม่ดี ทางเราขอแนะนำ บริษัท Jawanda Cargo ให้เราดูแลคุณแบบครบวงจรเพื่อการนำเข้าสินค้าจากจีนจะได้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น


