เรียกว่าใบกำกับสินค้า

ในการนำเข้าสินค้าจากจีนควรรู้เรื่อง Commercial Invoice หรือ ใบกำกับภาษีการค้า เป็นเอกสารสำคัญในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่ ใช้เป็นหลักฐานในการซื้อขายสินค้า และ การคำนวณภาษีศุลกากร ใบนี้ช่วยให้รัฐบาลและศุลกากรสามารถตรวจสอบมูลค่าสินค้าเพื่อการจัดเก็บภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มได้

ความสำคัญของ Commercial Invoice

ความสำคัญคืออะไร

Commercial Invoice (ใบกำกับภาษีการค้า)ถือเป็นเอกสารสำคัญในกระบวนการค้าระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้าระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อโดยมีความสำคัญในหลายๆด้านดังนี้:

  1. หลักฐานในการทำธุรกรรมการค้า

เป็นหลักฐานที่ใช้ในการยืนยันการทำธุรกรรมระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าและบริการที่มีการขายจะได้รับการยืนยันผ่านใบนี้เพื่อใช้ในการตรวจสอบหรือฟ้องร้องหากมีปัญหาเกิดขึ้นเช่นการขอคืนเงินจากความเสียหายหรือการปฏิเสธการชำระเงิน


  1. การคำนวณภาษีศุลกากรและค่าธรรมเนียม

ใช้ในการคำนวณ ภาษีศุลกากร, ภาษีนำเข้า, และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยที่มูลค่าของสินค้าในใบกำกับภาษีนี้จะช่วยให้ศุลกากรสามารถประเมินภาษีที่ต้องชำระได้อย่างถูกต้องนอกจากนี้ยังใช้ในการคำนวณค่าธรรมเนียมศุลกากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งข้ามประเทศ


  1. การประกันภัยสินค้า

ในการขนส่งระหว่างประเทศมักจะถูกใช้เป็นเอกสารสำคัญในการทำประกันภัยสินค้าโดยที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถใช้ใบนี้ในการเคลมประกันภัยหากเกิดการสูญหายหรือความเสียหายของสินค้าในระหว่างการขนส่ง


  1. การระบุเงื่อนไขการขนส่ง

ใบกำกับภาษีการค้าเป็นเอกสารที่ระบุเงื่อนไขการขนส่งเช่น Incoterms (FOB, CIF, DDP) ที่กำหนดว่าใครจะรับผิดชอบค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และความเสี่ยงในการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางการระบุเงื่อนไขเหล่านี้ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเข้าใจขอบเขตความรับผิดชอบของตนเองได้ชัดเจน


  1. การตรวจสอบความถูกต้องและการปฏิบัติตามกฎหมาย

การส่งให้กับหน่วยงานศุลกากรเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายการนำเข้า-ส่งออกของประเทศต่างๆเมื่อข้อมูลในใบนี้ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้การขนส่งและการนำเข้าผ่านไปอย่างราบรื่นและไม่เกิดความล่าช้า


  1. ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณสินค้า

ใบกำกับภาษีการค้าจะระบุ รายละเอียดสินค้าเช่น ชื่อสินค้า, ปริมาณ, รหัสสินค้า, และราคาต่อหน่วย ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตรวจสอบ คุณภาพและปริมาณ ของสินค้าที่จัดส่งได้


  1. การใช้ในการชำระเงิน

Commercial Invoice ยังเป็นเอกสารที่ใช้ในการ กำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน เช่น วิธีการชำระเงิน (T/T, L/C) และระยะเวลาการชำระเงิน ซึ่งสำคัญในการจัดการเงินสดและกระแสเงินหมุนเวียนในธุรกิจการค้า


ข้อมูลที่ควรมีใน Commercial Invoice

ข้อมูลที่ควรมี
  1. ข้อมูลของผู้ขายและผู้ซื้อ

  • ชื่อบริษัท/บุคคล (Seller/Buyer)
  • ที่อยู่ (Full Address)
  • หมายเลขโทรศัพท์/อีเมล (Phone Number/Email)
  • หมายเลขภาษีประจำตัวผู้ขาย/ผู้ซื้อ (Tax Identification Number)

  1. ข้อมูลของการขนส่ง

  • หมายเลขใบสั่งซื้อ (Purchase Order Number)
  • หมายเลขใบส่งสินค้า (Invoice Number)
  • วันที่ออกใบกำกับภาษี (Date of Issue)
  • หมายเลขบิลขนส่ง (ถ้ามี) (Bill of Lading Number)
  • ชื่อบริษัทขนส่ง/ผู้รับผิดชอบการขนส่ง (Carrier’s Name/Shipping Company)

  1. รายละเอียดสินค้า

  • ชื่อสินค้า (Description of Goods)
  • จำนวน (Quantity)
  • หน่วยของสินค้า (Unit of Measurement, เช่น กิโลกรัม, ชิ้น)
  • รหัสสินค้า (Product Code/HS Code)
  • ราคาต่อหน่วย (Unit Price)
  • มูลค่ารวมของสินค้า (Total Value of Goods)

  1. มูลค่ารวมของใบกำกับภาษี

  • ราคาสินค้ารวม (Total Invoice Value)
  • ค่าขนส่ง (ถ้ามี) (Shipping Cost)
  • ค่าประกันภัย (ถ้ามี) (Insurance Cost)
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ (เช่น ค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการ) (Other Charges)

  1. เงื่อนไขการชำระเงิน

  • วิธีการชำระเงิน (Payment Method เช่น T/T, L/C, PayPal)
  • ระยะเวลาการชำระเงิน (Payment Terms, เช่น 30 วันหลังจากใบกำกับภาษี)

  1. ข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งและ Incoterms

  • เงื่อนไขการขนส่ง (Incoterms) เช่น FOB, CIF, DDP, ที่กำหนดความรับผิดชอบระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
  • สถานที่ขนส่งหรือส่งมอบ (Place of Delivery)
  • ท่าเรือหรือสนามบินขนส่ง (Port of Loading/Port of Discharge)

  1. รายละเอียดประกันภัย (ถ้ามี)

  • บริษัทประกันภัย (Insurance Company)
  • ประเภทการประกันภัย (Type of Insurance)
  • จำนวนเงินประกันภัย (Insurance Amount)

  1. ลายเซ็นและข้อมูลของผู้ขาย

  • ลายเซ็นของผู้ขาย (Seller’s Signature)
  • ชื่อและตำแหน่งของผู้ลงนาม (Name and Position of Signatory)

  1. ข้อกำหนดทางกฎหมายและข้อมูลเพิ่มเติม

  • ข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (Legal Terms or Additional Notes)
  • หมายเลขทะเบียนบริษัท/เลขที่ใบอนุญาตการค้าระหว่างประเทศ (Business Registration Number, Export License Number)

ข้อควรระวังในการใช้งาน

Commercial Invoice

ข้อควรระวังในการใช้งาน
  1. ระบุข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง

  • ข้อมูลผู้ขายและผู้ซื้อ: ตรวจสอบชื่อที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อให้ถูกต้อง รวมทั้งหมายเลขภาษี (Tax Identification Number) ที่ถูกต้องและใช้ได้
  • รายละเอียดสินค้า: ระบุชื่อสินค้า, ปริมาณ, หน่วยวัด, รหัสสินค้า (HS Code) และราคาต่อหน่วยให้ชัดเจนและตรงกับสิ่งที่ส่งมอบ
  • ราคาสินค้ารวมและค่าธรรมเนียมอื่นๆ: ต้องแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน รวมถึงค่าขนส่ง, ค่าประกันภัย หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอื่นๆ อย่างถูกต้อง

  1. ตรวจสอบ Incoterms (เงื่อนไขการขนส่ง)

  • ต้องระบุ เงื่อนไขการขนส่ง (Incoterms) ให้ชัดเจน เช่น FOB, CIF, DDP เป็นต้น เพื่อกำหนดความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
  • การเลือก Incoterms ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือข้อพิพาทระหว่างคู่ค้า

  1. หลีกเลี่ยงการระบุราคาสินค้าในอัตราที่ต่ำเกินไป

  • การระบุราคาสินค้าต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหากับ การตรวจสอบภาษีศุลกากร หรือมีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยงานศุลกากรที่อาจนำไปสู่การปรับหรือหักล้างสินค้าผ่านศุลกากร

  1. ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน

  • ควรระบุ เงื่อนไขการชำระเงิน และ วิธีการชำระเงิน อย่างชัดเจน เช่น วิธีการชำระเงิน (T/T, L/C) และระยะเวลาการชำระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดในกระบวนการชำระเงิน

  1. ระวังการคำนวณภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

  • คำนวณ ภาษีศุลกากร, ภาษีนำเข้า, ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอย่างถูกต้อง และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการชำระภาษีและค่าธรรมเนียมอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

  1. ใช้ข้อมูลที่สอดคล้องกับการตรวจสอบจากหน่วยงานศุลกากร

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า รายละเอียดสินค้าหรือ HS Code ที่ระบุใน Commercial Invoice ตรงกับรายการที่ส่งไปยังศุลกากร เพราะการระบุข้อมูลผิดพลาดอาจทำให้สินค้าถูกกักขังหรือปฏิเสธการนำเข้า

  1. ตรวจสอบการส่งเอกสารครบถ้วน

  • ก่อนที่จะส่งสินค้าและใบกำกับภาษีการค้า ควรตรวจสอบว่าเอกสารที่ต้องการทั้งหมด เช่น ใบกำกับภาษีการค้า, ใบขนส่งสินค้า (Bill of Lading), ใบรับรองแหล่งที่มา (Certificate of Origin) และ ใบประกันภัย (Insurance Certificate) ถูกเตรียมและส่งให้ครบถ้วน

  1. ระบุข้อมูลการขนส่งและหมายเลขบิลขนส่ง

  • ต้องระบุ หมายเลขบิลขนส่ง (Bill of Lading Number) ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับเอกสารการขนส่ง เพื่อให้การติดตามและการตรวจสอบของศุลกากรเป็นไปได้ง่าย

  1. ลายเซ็นผู้ขาย

  • ใบ Commercial Invoice ควรมี ลายเซ็นของผู้ขาย เพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสาร หากไม่มีลายเซ็นอาจทำให้เกิดปัญหาในการตรวจสอบเอกสารจากศุลกากรหรือผู้ตรวจสอบ

  1. ระมัดระวังการใช้ข้อมูลเท็จ

  • หลีกเลี่ยงการระบุข้อมูลที่ผิดพลาดหรือ การใช้ข้อมูลเท็จ เช่น การระบุราคาสินค้าในเชิงหลีกเลี่ยงภาษี เพราะอาจทำให้เกิดปัญหากฎหมายและส่งผลเสียต่อธุรกิจ

Cost, Insurance, and Freight : ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับต้นทุนและประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล

เรียกได้ว่าCost, Insurance, and Freight (CIF)เป็นหนึ่งในเงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศภายใต้ Incoterms

ทำไมการจัดการสต๊อกสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ

การจัดการสต๊อกสินค้าถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญที่สุดในธุรกิจทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือ ธุรกิจขนาดใหญ่เพราะสต๊อกสินค้า

แอพ1688มีวิธีการสมัครใช้งานและตั้งค่าบัญชีให้ปลอดภัยควรทำอย่างไร

ในปัจจุบันการสั่งของจากจีนผ่านแอพ1688 ถือว่าเป็นแอพพลิเคชันที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าจากผู้ขายในประเทศจีนได้สะดวกสบาย

สรุป

ตอนนี้การนำเข้าสินค้าจากจีนจะต้องใช้ Commercial Invoice เพราะถือว่าเป็นเอกสารที่สำคัญ เพื่อให้การขนส่งและการนำเข้าสินค้าผ่านศุลกากรเป็นไปได้อย่างราบรื่นและไม่เกิดปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้ยังใช้ในการคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า.

บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน

บริการสั่งของจากจีน ด้วยทีมงานคุณภาพ คลอบคลุมทุกธุรกิจ ผู้นำด้านการสั่งของจากจีน พร้อมนำเข้าสินค้าจากจีน จากชิปปิ้งที่มีเครือข่ายทีมงาน มากที่สุดในโลก อันดับ 1

สอบถามบริการนี้