การซื้อสินค้าจากจีนหรือนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่รู้จักช่องทางจ่ายเงินในการซื้อของจีนในการสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง 1688, Taobao, Tmall, Alibaba หรือการติดต่อซื้อสินค้ากับโรงงานโดยตรง อาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการจ่ายเงิน
“ช่องทางการจ่ายเงิน” กับร้านค้าจีนนั้นมีหลากหลายแบบ วันนี้เราจะกล่าวถึงวิธีที่นิยมที่สุดและปลอดภัยที่สุดให้คุณทราบ
ช่องทางชำระเงินที่นิยมใช้ในการซื้อของจากจีน
1.1 Alipay (支付宝)
Alipay เป็นระบบชำระเงินออนไลน์ที่พัฒนาโดย Alibaba Group ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในจีน โดยเฉพาะการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม 1688, Taobao และ Tmall
✅ ข้อดี
- ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง – ด้วยระบบ Buyer Protection ยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน
- รองรับการชำระเงินทั้งบุคคลทั่วไปและบริษัท – ใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มที่เป็นเครือ Alibaba Group เหมาะกับออเดอร์สั่งซื้อจำนวนมากและหลากหลายชนิด
- มีระบบ “Escrow” (ระบบคุ้มครองผู้ซื้อ) ซึ่งเงินจะถูกพักไว้ก่อนจนกว่าผู้ซื้อจะยืนยันว่ารับสินค้าหรือชำระอย่างถูกต้อง
- สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารจีนได้โดยตรง ผ่านระบบ Fast Transfer โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ
❌ ข้อเสีย
- ต้องมีบัญชี Alipay แบบ Verified ซึ่งต้องใช้บัญชีธนาคารจีนหรือเอกสารธุรกิจ
- อาจเกิดความซับซ้อนเมื่ออยู่นอกประเทศจีน หลังมีปัญหาด้านธุรกรรมการเงิน
- แม้ว่าจะมีระบบ Escrow แต่หากมีการขอ Refund เงินคืน อาจใช้เวลาดำเนินการยาวนานมากกว่า 5-15 วันขึ้นอยู่กับมูลค่าของเงิน และวิธีหรือช่องทางในการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มใด
- การโอนเงินข้ามประเทศไปยัง Alipay อาจมีค่าธรรมเนียมสูง
- สกุลเงินที่ใช้บน Alipay จะเป็น CNY เป็นหลัก หากใช้สกุลเงินอื่นๆ จะมีการ Conversion rate ที่ไม่คงที่
1.2 WeChat Pay (微信支付)
WeChat Pay เป็นอีกหนึ่งระบบชำระเงินยอดนิยมในจีน โดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการโอนเงินให้กับซัพพลายเออร์รายย่อยหรือร้านค้าในจีนที่ใช้ WeChat เป็นหลัก ระบบนี้มีการใช้งานง่าย แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารจีน และยังรองรับ e-Wallet ต่างประเทศบางประเภทแล้วในปี 2025
✅ ข้อดี
- ใช้งานสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องสลับแอปหลายตัว – สามารถชำระเงิน พูดคุยกับซัพพลายเออร์ และตรวจสอบธุรกรรมได้ในที่เดียว
- โอนเงินรวดเร็วแบบเรียลไทม์ – การชำระเงินผ่าน WeChat Pay ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยเฉพาะกรณีจ่ายให้กับซัพพลายเออร์ในจีน
- รองรับ e-Wallet ต่างประเทศ (บางประเทศ) – ในปี 2025 WeChat Pay เริ่มรองรับการเชื่อมต่อกับ TrueMoney Wallet, LINE Pay Wallet และ Google Pay ทำให้ผู้ซื้อไทยใช้งานได้ง่ายขึ้น
- มีความปลอดภัยสูง เพราะต้องใช้การยืนยันตัวตน
❌ ข้อเสีย
- ต้องมีบัญชี WeChat Pay ที่เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารจีน
ไม่เหมาะสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ – ซัพพลายเออร์บางรายโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ อาจไม่รับ WeChat Pay สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมาก เพราะต้องการวิธีที่มีระบบคุ้มครอง (เช่น Alipay หรือ T/T) - ไม่มีระบบ Escrow คุ้มครองผู้ซื้อ
เงินที่โอนผ่าน WeChat Pay จะโอนเข้าบัญชีซัพพลายเออร์ทันที ต่างจาก Alipay ที่พักเงินไว้ก่อน - ความเสี่ยงด้านการโต้แย้งธุรกรรม
ไม่มีระบบ Refund ที่เป็นทางการเหมือน Alipay หากเกิดปัญหาต้องเจรจากับซัพพลายเออร์โดยตรง
1.3 การโอนเงินผ่านธนาคาร
การโอนเงินผ่านธนาคาร – หรือ Telegraphic Transfer (T/T) เป็นช่องทางชำระเงินที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับการซื้อขายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่กับซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ระบบนี้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความโปร่งใสและการบันทึกธุรกรรมทางการเงินอย่างเป็นทางการ
✅ ข้อดี
- เหมาะสำหรับการซื้อของในปริมาณมาก – เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการชำระเงินค่าสินค้าที่มูลค่าสูง เพื่อยื่นลงบัญชีและจัดการด้านภาษี
- มีหลักฐานทางการเงินอย่างชัดเจน – สามารถใช้สลิปการโอนเงินเป็นหลักฐานของกฏหมายได้ หากเกิดความผิดพลาดระหว่างการซื้อ-ขาย
- ใช้ได้กับทุกประเภทของซัพพลายเออร์ ไม่จำกัดแค่แพลตฟอร์มออนไลน์
- มีการคุ้มครองเบื้องต้นผ่าน Alipay Trade Assurance – หากโอนเงินผ่านระบบ Alipay Trade Assurance ระบบจะพักเงินเอาไว้ก่อน จนกว่าผู้ซื้อยืนยันการกดรับเงินที่ซื้อสินค้า
- สามารถโอนเงินจากบัญชีธุรกิจหรือบัญชีส่วนตัวได้ที่เข้าร่วมกับระบบ SWIFT
❌ ข้อเสีย
- มีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าตลาดทั่วไป จากทั้งธนาคารผู้ส่ง ผู้รับ และค่าโอนผ่าน SWIFT
- ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ กว่าเงินจะเข้าบัญชีผู้รับ – ซึ่งยาวนานกว่า e-wallet
- ต้องตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินอย่างละเอียดและถูกต้องก่อนโอน เพราะการขอคืนเงินเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับการโอนเงินโดยตรงกับธนาคาร โดยเฉพาะโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้ขาย (ที่ไม่ได้จดทะเบียนบัญชีบริษัท)
- ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก Escrow – เนื่องจากเป็นการชำระนอกเหนือระบบของ Alipay ที่ดูแลธุรกรรมการเงินภายในประเทศจีน
1.4 บัตรเครดิต/เดบิต
การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว เหมาะกับการสั่งซื้อสินค้าจำนวนเล็ก–กลาง โดยระบบรองรับบัตรหลักๆ เช่น Visa, MasterCard และบางกรณีรองรับ JCB หรือ UnionPay การชำระผ่านวิธีนี้จะถูกผูกเข้ากับระบบคุ้มครองผู้ซื้อ (Trade Assurance) ของ Alibaba
✅ ข้อดี
- ใช้งานง่ายและรวดเร็ว
สามารถชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดบัญชีจีนหรือยืนยันตัวตนเพิ่มเติมใดๆ - คุ้มครองผ่าน Trade Assurance
เงินจะถูกพักไว้จนกว่าผู้ซื้อจะยืนยันการรับสินค้า ทำให้ปลอดภัยกว่าการโอนตรงอย่างมาก และปลอดภัยกว่าถึง 90% - ไม่มีค่าธรรมเนียมฝั่งผู้ขาย
ผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจ่ายบัตรเพิ่มเติม หรือมีเพียงค่าธรรมเนียมบัตรเล็กน้อยในกรณีที่จำนวนเงินเกินวงเงินที่กำหนด - เหมาะกับการสั่งซื้อมูลค่าไม่สูงมาก
เหมาะกับผู้ที่สั่งสินค้าเพื่อตรวจสอบคุณภาพ และยังไม่ต้องสั่งจำนวนมากเป็น stock สินค้า - สามารถขอ Chargeback ได้
หากเกิดปัญหากับซัพพลายเออร์ สามารถขอคืนเงินผ่านธนาคารผู้ออกบัตรภายในประเทศได้จากหลักฐานการทำธุรกรรม
❌ ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน
อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเมื่อจ่ายเป็นเงินสกุลต่างประเทศ เช่น USD หรือ CNY - วงเงินจำกัด
หากเป็นการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากที่ไม่สามารถแบ่งจ่ายได้ทันที อาจติดเพดานวของวงเงินบัตรเครดิต ซึ่งสำคัญมากต่อการชำระเบี้ยเงินภายหลัง - การตรวจสอบธุรกรรมบ่อยครั้ง
บางครั้งธนาคารอาจบล็อกการชำระหากระบบมองว่าเป็นธุรกรรมต่างประเทศที่ผิดปกติ จึงต้องติดต่อผู้ให้บริการบัตรบ่อยครั้ง - ไม่มีประโยชน์ด้านภาษีสำหรับธุรกิจบางประเภท
หากต้องใช้เอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ เช่น การยื่นภาษี อาจไม่เหมาะเท่าการโอนผ่านธนาคาร เนื่องจากใช้เป็นหลักฐานการลงภาษีได้ยากมาก - เสี่ยงถูกปฏิเสธการจ่ายโดยระบบป้องกัน Fraud
โดยเฉพาะหากสั่งซื้อสินค้าหลายรายการรวดเร็วเกินไป จะทำให้ถูกบล็อคช่องทางการชำระได้
1.5 Western Union
Western Union เป็นวิธีโอนเงินระหว่างประเทศแบบรวดเร็วที่เหมาะสำหรับการจ่ายเงินมัดจำหรือธุรกรรมกับซัพพลายเออร์รายย่อย โดยเฉพาะเมื่อซัพพลายเออร์ไม่มีบัญชีธนาคารองค์กร หรือไม่รองรับการชำระผ่าน Trade Assurance
✅ ข้อดี
- โอนเงินรวดเร็ว – ผู้รับเงินสามารถรับได้ทันทีภายในไม่กี่นาทีหลังการทำธุรกรรม
- ไม่ต้องใช้บัญชีธนาคาร – ซัพพลายเออร์เพียงมีบัตรประชาชนและรหัสรับเงินก็สามารถรับเงินได้ทันที
- เหมาะสำหรับซัพพลายเออร์รายเล็ก – โดยเฉพาะร้านค้าหรือผู้ขายที่อยู่นอกระบบ Alibaba Trade Assurance
- รองรับเกือบทุกประเทศ – มีสาขาหรือพันธมิตรทั่วโลก รวมถึงการโอนผ่านออนไลน์
- ใช้เป็นวิธีสำรองได้ – กรณีเร่งด่วนที่ช่องทางหลักอย่าง T/T หรือบัตรเครดิตใช้ไม่ได้
❌ ข้อเสีย
- ไม่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ – เงินจะถูกโอนเข้าผู้รับทันที ไม่มีระบบ Escrow เหมือน Alipay ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น หากมีการโอนผิดพลาดหรือผู้ขายผิดธุรกรรม
- เสี่ยงต่อการฉ้อโกง – มักใช้เฉพาะกับซัพพลายเออร์ที่ไว้ใจได้ เนื่องจากไม่มีการยืนยันแบบเป็นทางการ
- ค่าธรรมเนียมสูง – โดยเฉพาะเมื่อโอนเงินจำนวนมาก อาจสูงกว่าการโอนผ่านธนาคาร
- ไม่เหมาะกับธุรกรรมขนาดใหญ่ – การสั่งซื้อล็อตใหญ่ควรใช้วิธีที่มีเอกสารทางบัญชีและความปลอดภัยมากกว่า และจัดการกับภาษีได้ง่ายกว่า
- ตรวจสอบยาก – หากมีปัญหาหรือโอนผิด ช่วงขอเงินคืนทำได้ยากมากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ ⊗
วิธีเลือกช่องทางการจ่ายเงิน
ที่เหมาะสมกับการซื้อแต่ละประเภท
– สำหรับการสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (1688, Taobao, Tmall, Alibaba)
- Alipay เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะปลอดภัยและมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ
- บัตรเครดิต ใช้ได้กับบางแพลตฟอร์ม เช่น Alibaba หรือ AliExpress
– สำหรับการซื้อจากโรงงานหรือซัพไพลเออร์โดยตรง
- Bank Transfer (TT) เหมาะสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมาก
- WeChat Pay หรือ Alipay เหมาะสำหรับการซื้อขายรายย่อย
- และสามารถใช่ระบบ Alipay ผ่านการทำธุรกรรมบน Payment Link ในแพลตฟอร์ม Alibaba เพื่อเป็นการชำระเงินอย่างปลอดภัยได้เช่นกัน
– สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยในการซื้อขายส่วนตัว
- PayPal เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องตรวจสอบว่าซัพพลายเออร์รองรับหรือไม่
- บัตรเครดิต เป็นอีกทางเลือกที่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ แต่ไม่สามารถจัดการกับภาษีส่วนตัวได้
– สำหรับการซื้อจำนวนน้อยและต้องการโอนเงินด่วน
- Western Union ใช้งานได้ง่าย แต่ควรใช้กับซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
- Alipay ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลายๆ ร้านในประเทศจีนนิยมใช้ เพราะสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อควรระวังในการใช้จ่าย
ผ่านช่องทางชำระเงินต่างๆ ในประเทศจีน
แม้จะมีหลายวิธีในการชำระเงินเพื่อสั่งสินค้าจากจีน เช่น Alipay, WeChat Pay, การโอนผ่านธนาคาร (T/T), บัตรเครดิต/เดบิต หรือ Western Union แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องพิจารณาก่อนทำธุรกรรม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังดังนี้
1. ตรวจสอบตัวตนและความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ก่อนทำการชำระเงิน
ควรตรวจสอบว่า ร้านค้าหรือซัพพลายเออร์มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง และมี รีวิวเชิงบวกจากลูกค้ารายอื่น เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
2. ใช้ช่องทางที่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ
เช่น Alipay (ผ่านระบบ Escrow) หรือการชำระผ่าน Alibaba Trade Assurance เพราะจะช่วยพักเงินไว้จนกว่าผู้ซื้อจะยืนยันการรับสินค้า
3. ระวังค่าใช้จ่ายแฝง
ไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ, ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต หรือ ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน (FX Fee) เพราะอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
4. หลีกเลี่ยงการโอนเงินตรงนอกแพลตฟอร์ม
หากมีซัพพลายเออร์ขอให้โอนเงินตรงไปยังบัญชีส่วนตัว ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากแพลตฟอร์ม Alibaba โดยเฉพาะการซื้อขายบน Platform Taobao,1688 ฯลฯ
5. เก็บหลักฐานการชำระเงินทุกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นสลิปโอนเงิน ใบแจ้งหนี้ (Invoice) หรือเอกสารยืนยันการชำระเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานกรณีเกิดข้อพิพาท หากเป็นการสั่งซื้อบนแฟลตฟอร์มหรือติดต่อผู้ขายโดยตรง
- “ควรบันทึกภาพหน้าจอที่พุดคุยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นหลักฐานการขอคืนเงินเมื่อได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพตามที่ตกลงกันเอาไว้หรือผิดพลาดเรื่องรายละเอียดสเป็คสินค้า”
• สรุป
การเลือกช่องทางจ่ายเงินในการซื้อของจากจีนเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อความปลอดภัยและต้นทุนของการนำเข้าสินค้า แต่ละช่องทางมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและความสะดวกของคุณ
หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นใช้งาน – แพลตฟอร์มอย่าง Alipay บัตรเครดิต อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากคุณเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ Bank Transfer หรือ WeChat Pay อาจเหมาะสมกว่าเพื่อความรวดเร็วในการประสานงานไม่ให้ผิดพลาด ณ ขั้นตอนนั้นๆ
และอย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ หรือผู้ขายสินค้าทุกครั้ง ก่อนทำธุรกรรม เพื่อป้องกันการถูกกลโกงและลดความเสี่ยงมูลค่าความเสียหายกับตัวผู้ซื้อ หากคุณสนใจการนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างปลอดภัย และมีผู้ดูแลธุรกรรมเป็นคนกลางประสานงานให้ พวกเรา JAWANDA CARGO ยินดีให้บริการคุณทุกรูปแบบการนำเข้าสินค้า ถ้าคุณสนใจสามารถคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อพูดคุยกับเราได้ทันที

